เมื่อท่านตัดสินใจเรียนกฎหมายแล้ว ก็ต้องหาวิธีเรียนให้จบ บางท่านเริ่มเรียนใหม่ๆยังจับต้นชนปลายไม่ถูก อาจารย์มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ
1. ก่อนอ่านหนังสือต้องทำความเข้าใจข้อนึงก่อนว่า การเรียนกฎหมายไม่ใช่ ท่องๆ เป็นนกแก้ว นกขุนทอง หรือท่องๆจนลูกท่องตามได้ ถ้าท่องอย่างเดียวแล้วไม่เข้าใจ หรือหยิบใช้ไม่เป็น มันก็เหมือนกับเรียนหมอ จำได้ว่า โรคอย่างนี้ใช้ยาอะไร (คือจำรายละเอียดของยาได้) แต่วินิจฉัยโรคไม่ถูก ก็ใช้ยาผิด ผลก็คือคนไข้ตาย นักกฎหมายก็เหมือนกันต้องวิเคราะห์ให้ออกว่า กรณีอย่างนี้เป็นเรื่องอะไร เมื่อวิเคราะห์ได้จึงจะหยิบมาตราที่ถูกต้องมาใช้ได้ถูกต้องค่ะ เช่น เราจำได้ว่า ถ้าอยากเข้าไปสอดในคดีที่คนอื่นเขาฟ้องกันไปแล้ว มันต้องร้องสอดเข้าไป ทีนี้การร้องสอดมันมี 3 อนุมาตรา คือ ป.วิ.พ.ม.57 อนุมาตรา (1) อนุมาตรา (2) อนุมาตรา (3) เราต้องวิเคราะห์ให้ออกว่าตกลงแล้วจะสอดทั้งที ใช้สิทธิสอดตามอนุมาตราอะไร เพราะผลของการร้องสอดแต่ละอนุมาตรามันต่างกัน ตาม ม.58 จะเป็น วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ผลต่างกันประมาณนางงาม กับนางงอม (อย่างไรงาม อย่างไรงอม เอาไว้ไปเรียนวิแพ่งแล้วรู้เอง)
2. การอ่านหนังสือ ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ อ่านแล้วอ่านเลย และอ่านแล้วลืมค่ะ เคยเจอมัน อ่านแล้ว รู้สึกเหมือนไม่ได้อ่าน เสมือนกินอาหารในความฝัน กินแล้วยังหิวอยู่ รู้ตัวว่ากินตอนฝันไปก็เมื่อตื่นจากฝัน (ยกตัวอย่างซะเว่อมากค่ะ ตัวเองยัง..งง..เลยค่ะ) วิธีของอาจารย์ก็คือ เมื่ออ่านหนังสือ อาจารย์จะจดโน๊ตสั้นๆๆ (เน้นว่าสั้นๆ) ว่าย่อหน้า (เน้นอีกว่าย่อหน้า) ย่อหน้านั้นเกี่ยวกับอะไร เอาไว้อ่านทวนก่อนสอบ และอ่านเวลาที่ต้องการสืบค้นภายหลังค่ะ ปกติ ถ้าอาจารย์จะเอาจริงจังกับวิชาอะไร จะทำทุกย่อหน้าค่ะ แต่ขอร้องว่า กรุณาอย่าทำแถบสี (highlight) มากเกินงาม เพราะเวลาอ่านทบทวนจะเสียเวลาเพราะ นอกจากจะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญแล้ว ยังต้องเสียสายตาอ่านตัวหนังสือที่อยู่ภายใต้สีที่เราทำแถบสีไว้ ยิ่งแถบสีต่างๆนาๆ เป็นสายรุ้งช่างฝัน อย่าลืมว่าเราอายุเท่าไรแล้ว ถ้าอายุต่ำกว่า 30 ก็พอรับได้ แต่ถ้าเกินกว่านั้น ไม่ว่าจะเลิกนับอายุไปแล้วหรือยังก็ตาม ถ้าต้องการทำเครื่องหมายข้อความสำคัญ ขอแนะนำให้ใช้ดินขีดค่ะ ทำไมต้องดินสอ เพราะดินสอมันลบได้ บางทีเราอ่านใหม่ๆ เรื่องนี้ก็สำคัญ อีกเรืื่องก็สำคัญ ขีดไปขีดมา สำคัญทั้งหน่วย หรือทั้งบท อย่างนี้ต้องกลับมาเลือกลบ เสียเวลาหน่อย แต่คุ้มเวลาเราอ่านทวนก่อนสอบเพราะเราจะอ่านเฉพาะที่สำคัญจริงๆ
3. เมื่ออ่านแล้ว โน๊ตสั้นๆแล้ว สิ่งที่สำคัญมั๊กๆ คือทำชาร์ทย่อเรื่องนั้น บทนั้น มาตรานั้น วิธีนี้จะทำสำเร็จก็ต่อเมื่อเรามีสมาธิในการอ่าน ถ้าอ่านแล้วไม่ทำชาร์ท หรือสรุปไว้ ไม่นานก็ลืม ยิ่งอายุมาก ความจำยิ่งสั้นด้วย ใหม่ๆจะยากมากเพราะรวบรวมสมาธิไม่ได้ สรุปไม่ถูก ทำชาร์ทก็มั่ว ไม่เป็นไร คนเราเกิดมาต้องมีครั้งแรก ไม่ดีไม่เป็นไร อ่านต่อไปเรื่อยๆ ทำต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะพัฒนาเป็นชาร์ทที่ดีขึ้น จะจดจ่ออยู่กับชาร์ทแรกที่เราคิดว่าไม่เวอร์ค เหมือนเด็กๆรักครั้งแรกก็อกหัก ก็หาแฟนต่อไปเรื่อยๆ สักวันก็หาได้เองล่ะค่ะ อาจารย์เองกว่าจะลงจากคานทองได้ก็แทบแย่ (ยกตัวอย่างไม่เกี่ยวเลย) ฉะนั้น ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวดีเอง
4. ชาร์ทที่ว่าเอาไว้ทำอะไรคะ ก็เอาไว้จำไงคะ จำหลักกฎหมายไว้ก่อน แล้วค่อยมาจำตัวบท ส่วนวิธีจำตัวบททำอย่างไร อาจารย์จะเล่าให้ฟังทีหลัง ขอเสริมสำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มเรียนกฎหมายวิธีสบัญญัติ หรือที่เรียกว่ากฎหมายวิธีพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น วิแพ่ง วิอาญา ล้มละลาย หรือวิอะไรต่างๆนาๆ ต้องศึกษาภาพรวมการพิจารณาคดีทั้งหมดก่อนว่า เริ่มต้นคดีอย่างไร แล้วตามด้วยอะไร ไปต่ออย่างไร จนจบกระบวนความนั่นล่ะ เมื่อเห็นภาพรวมแล้วก็ศึกษาเนื้อหาทีละเรื่องจะเข้าใจง่ายขึ้น
5. เวลาศึกษากฎหมาย ต้องจำหลัก ว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้มีหลักอย่างไร เมื่อได้หลักก็ต้องจำข้อยกเว้น เมื่อจำข้อยกเว้นแล้วก็ต้องจำผลของหลักนั้นๆว่ามีผลทางกฎหมายอย่างไร เมื่อรู้ผลทางกฎหมายแล้ว จะแก้ไขอย่างไรได้ (แก้ไขทางกฎหมายนะคะ ไม่ใช่แก้ไขโดยวิธีอื่น) ชีวิตจริง ทางแก้ของกฎหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับทนายความ ถ้าท่านรู้หลักแต่แก้ไม่เป็น ลูกความท่านตายสถานเดียวค่ะ
6. ต้องหัดผูกเรื่อง (ไม่ใช่แต่งเรื่องขึ้นมาเองนะคะ) และโยงเรื่องไปหากัน และต้องเปรียบเทียบกัน กรณีไหนเข้ามาตรานี้ กรณีไหนเข้ามาตรานั้น บทบัญญัติอะไรเหมือนกัน จำไว้เป็นกลุ่ม (อย่าจำผิดก็แล้วกัน)
7. ถ้ามีเวลาพอก็จะโน๊ตลงในประมวลกฎหมาย (อ้อ ลืมบอกว่า ต้องหาประมวลกฎหมายมาใช้ด้วยค่ะ) เวลาอ่านตำราก็เปิดประมวลไปด้วย มีอะไรสำคัญก็โน๊ตในประมวล วันหลังอาจารย์จะเม๊าเรื่องการโน๊ตในประมวลทำยังไง เพราะกฎหมายเปลี่ยนอยู่เรื่อย ต้องซื้อประมวลบ่อยๆ ที่สำคัญคือเสียดายโน๊ตที่สู้อุตส่าห์เขียนไว้ในประมวลเก่า รอหน่อยนะคะ จะมาเล่าต่อค่ะ